ชาวไทย-มอญ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมแรงร่วมใจสร้างแพลูกบวบ เพื่อใช้เป็นทางสัญจรชั่วคราวแทนสะพานอุตตมานุสรณ์

โพสต์เมื่อ: วันจันทร์ 19 สิงหาคม 2013 (เข้าดู 729 views)

167 Views

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา ภาพความงดงามของสะพานมอญ (สะพานอุตตมานุสรณ์) สัญลักษณ์ท่องเที่ยวของเมืองสังขละบุรี ได้ถูกทำลายด้วยกระแสน้ำ อันเกิดจากน้ำป่า ที่ได้พัดพาท่อนซุงถล่มสะพานอุตตมานุสรณ์ จนสะพานขาด ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นแนวยาว 100 เมตร ส่งผลกระทบต่อการสัญจรของผู้คนในละแวกดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบและประเมินค่าใช้จ่ายสำหรับการซ่อมแซมสะพานไม้ดังกล่าว อีกทั้งได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งในส่วนราชการ หน่วยอาสาและประชาชนทั้งสองฝั่ง เพื่อดำเนินการรื้อซากไม้ รวมถึงสิ่งปฏิกูลที่ถูกน้ำป่าพัดพา มาติดอยู่บริเวณตัวสะพานออก ล่าสุดมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้มอบเงินจำนวน 100,000 บาท เพื่อใช้สร้างแพลูกบวบ ทำเป็นทางสัญจรชั่วคราว โดยพระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวังวังก์วิเวการาม ได้มาควบคุมการก่อสร้างและมีชาวบ้านทั้งชาวไทยและชาวมอญ กว่า 50 คน ได้ร่วมมือร่วมใจกันจัดหาไม้ไผ่ เพื่อใช้ทำแพลูกบวบสำหรับเป็นทางสัญจรชั่วคราวแทนสะพานอุตตมานุสรณ์ที่ถูกน้ำป่าพัดพาจนเสียหาย

เรียบเรียงข้อมูลโดย อะเมสซิ่งไทยทัวร์
ขอบคุณภาพประกอบจาก สามประสบรีสอร์ท (Samprasob Resort) , คุณ Wa Sukkharin
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์, โพสต์ทูเดย์, คมชัดลึก

ในการซ่อมแซมสะพานอุตตมานุสรณ์ให้กลับสู่สภาพเดิมนั้น จะต้องมีการซ่อมแซมประมาณ 72 เมตร ซึ่งได้มีการประมาณการงบเบื้องต้นอยู่ที่ 5.7 ล้านบาท ทั้งนี้ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้แจ้งงบประมาณสำหรับสนับสนุนการซ่อมแซมดังกล่าวเป็นเงินจำนวน 2 ล้านบาท และยังมีในส่วนของภาคเอกชนหลายหน่วยงานที่ได้แจ้งความจำนงสำหรับช่วยเหลือในครั้งนี้แล้ว

ชาวไทย-มอญ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมแรงร่วมใจสร้างแพลูกบวบสำหรับสร้างทางสัญจรชั่วคราวแทนสะพานอุตตมานุสรณ์

โดยทางจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีการเปิดบัญชีธนาคารไทยพานิชย์ สาขากาญจนบุรี ในชื่อบัญชี กองทุนเพื่อการซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ บัญชีเลขที่ 607-3-01964-4 เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำหรับผู้ที่ต้องการร่วมบริจาคเงินสำหรับใช้ซ่อมแซมสะพานอุตตมานุสรณ์

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อน้ำป่าลงมาอีกระลอก ได้พัดเอาเศษไม้ซากปรักหักพักมาชนกับแพลูกบวบที่สร้างเป็นสะพานชั่วคราว จนชาวบ้านต้องช่วยกันนำสิ่งปฏิกูลที่ถูกน้ำป่าพัดพา มาติดอยู่บริเวณตัวสะพานออก แต่น้ำป่าในครั้งนี้ไม่ได้สร้างความเสียหายหรือส่งผลกระทบต่อแพลูกบวบแต่อย่างใด แต่ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อการสร้างแพลูกบวบดังกล่าว สร้างชิดสะพานมอญเกินไป (ห่างเพียง 5 เมตร) หากไม่มีการขยับแพลูกบวบ อาจจะเกิดปัญหาและเป็นอุปสรรคต่อการซ่อมแซมสะพานมอญได้

ทางด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการหารือกันร่วมกัน เพื่อพูดคุยและทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการแพล่องฝั่ง โดยมติที่ประชุมเห็นพร้อมกันว่า ควรมีการเคลื่อนย้ายสะพานที่สร้างจากแพลูกบวบ ให้ห่างจากตัวสะพานมอญออกไป 15 เมตร จนกระทั่งในเวลาต่อมา พระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวักวังก์วิเวการาม ได้มีการนัดหมายชาวบ้านมารวมตัวกัน เพื่อดำเนินการเคลื่อนย้ายแพลูกบวบตามมติที่ประชุม ผลปรากฏว่าไม่สามารถเคลื่อนย้ายแพลูกบวบได้ เนื่องจากมีผู้ประกอบการแพล่องฝั่งไทยไม่ยอมให้มีการย้ายแพลูกบวบ เพราะเกรงว่านักท่องเที่ยวจะไม่มาใช้บริการ หากมีการย้ายแพฯ แม้พระมหาสุชาติ ได้พูดคุยและได้อธิบายถึงเหตุผลกับผู้ประกอบการเพื่อขอบิณฑบาต แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะผู้ประกอบการไม่ยอม จึงทำให้ชาวบ้านที่รวมตัวกันเคลื่อนย้ายแพฯ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายแพฯ ได้ เพราะติดแพล่องของผู้ประกอบการ ซึ่งในตอนนี้ทำได้เพียงขยับแพลูกบวบออกมาได้ไม่มาก แต่ก็ยังไม่อยู่ในระยะตามที่ได้กำหนดไว้