slot88

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

  โพสต์เมื่อ: วันจันทร์ 2 กันยายน 2013 (เข้าดู 21,705 views)
489 Views

เมื่อท่านเดินทางมายังจังหวัดพัทลุง ระหว่างเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองพัทลุง ท่านจะสังเกตุเห็นภูเขาลูกหนึ่งซึ่งตั้งอยู่สูงเด่นเป็นตระหง่านมาแต่ไกล มีลักษณะเป็นเขาที่มีช่องทะลุอยู่บริเวณตรงกลาง มีชื่อว่า “ภูเขาอกทะลุ” หรืออีกชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันสั้นๆ ว่า “เขาอกลุ” ภูเขาอกทะลุตั้งอยู่ในบริเวณใจกลางเมืองพัทลุง ครอบคลุมพื้นที่ 3 ตำบล คือ ตำบลปรางค์หมู่ ตำบลคูหาสวรรค์ และตำบลพญาขัน ชาวพัทลุงเปรียบภูเขาอกทะลุเปรียบประดุจเสาหลักและตราประจำจังหวัดพัทลุง นอกจากนี้ภูเขาออกทะลุแห่งนี้ยังปรากฏอยู่ในคำขวัญของจังหวัดพัทลุงอีกด้วย “เมืองหนังโนร์รา อู่นาข้าว พราวน้ำตก แหล่งนกน้ำ ทะเลสาปงาม เขาอกทะลุ น้ำพุร้อน

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เรียบเรียงข้อมูลโดย อะเมสซิ่งไทยทัวร์
ขอบคุณภาพประกอบจาก คุณวิจิตร พลเพชร, ฟองสบู่, อะเมสซิ่งไทยทัวร์
ข้อมูลอ้างอิง รายการเล่าเรื่องเมืองใต้ (ช่อง 9 modern9TV)

เขาอกทะลุมีลักษณะเป็นเขาหินปูน บริเวณตรงกลางมีช่องขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 เมตร สามารถมองทะลุไปยังอีกด้านหนึ่ง จุดนี้แหละครับที่ทำให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้นและหวาดเสียวไม่น้อย ซึ่งจะเห็นบรรยากาศของเมืองพัทลุงได้อย่างชัดเจน ด้วยความพิเศษในส่วนที่เป็นช่องทะลุของเขาแห่งนี้ จึงทำให้มีความแตกต่างจากภูเขาทั่วไป นอกจากนี้ภูเขาทั่วๆ ไป ที่เราพบเห็นมักจะมีลักษณะเป็นเทือกเขา แต่เขาอกทะลุแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลุ่มอยู่ใจกลางเมืองพัทลุง และด้วยความสูงประมาณ 250 เมตร ทำให้สามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพของเมืองพัทลุงจากเขาอกทะลุแห่งนี้

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เขาอกทะลุ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดพัทลุง สำหรับการเดินทางขึ้นเขาอกทะลุคงต้องใช้ความอดทนพอสมควร เนื่องด้วยต้องเดินทางขึ้นบันไดกว่า 1,066 ขั้น เรียกได้ว่าเป็นออกกำลังกายท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ หากรู้สึกเหน็ดเหนื่อยก็สามารถหยุดพักเหนื่อยระหว่างเส้นทางเดินบริเวณจุดชมวิว ซึ่งจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถมองเห็นเขาหัวแตกและเขาชัยบุรีที่อยู่บริเวณใกล้ แม้การเดินทางครั้งนี้จะแลกมาด้วยความเหน็ตเหนื่อยแต่ถือได้ว่าคุ้มค่ากับการได้ชมบรรยากาศทิวทัศน์ของท้องทุ่งนาเขียวขจีที่อยู่เบื้องล่าง ช่วยให้หายเหนื่อยได้เป็นปลิดทิ้ง หลักจากพักเหนื่อยก็เดินทางต่อเพื่อขึ้นไปยังบริเวณยอดเขาอกทะลุต่อไป หลังจากที่ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที ก็จะถึงบริเวณอกทะลุ ซึ่งในส่วนนี้อากาศเย็นสบายมากครับ เพราะมีลมพัดตลอดเวลา สามารถนั่งพักและชมทัศนีภาพรอบๆ หรือจะเลือกถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก เพื่อบันทึกว่าครั้งหนึ่งเคยเดินทางมายังสถานที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองพัทลุงอย่าง “เขาอกทะลุ”

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

บริเวณจุดที่เป็นส่วนทะลุของเขาอกทะลุ

บริเวณจุดที่เป็นส่วนทะลุของเขาอกทะลุ

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

เที่ยวเขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง

ตามตำนานเขาอกทะลุ มีเรื่องเล่าเป็นนิทานปรัมปราเล่าถึงเขาอกทะลุว่า มีครอบครัวหนึ่ง สามีชื่อนายเมือง มีภรรยาอยู่ด้วยกัน 2 คน บุตร 2 คน ภรรยาหลวง มีชื่อว่า “นางศิลา” โดยนางศิลา มีบุตรชื่อว่า “นางยี่สุ่น” ภรรยาน้อยชื่อว่า “นางบุปผา” โดยนางบุปผา มีบุตรชื่อว่า “นายซังกั้ง” ทั้ง 5 คนอาศัยอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลาช้านาน ครั้งหนึ่งนายเมืองได้เดินทางไปค้าช้างที่ต่างเมือง นางยี่สุ่นผู้เป็นบุตรสาวก็ได้นำสำเภาไปค้าขายที่เมืองจีนด้วย นายซังกั้งซึ่งเป็นผู้มีนิสัยเกียจคร้านพาลเกเร ได้เดินทางท่องเที่ยวโดยไม่มีจุดหมาย

เขาอกทะลุ (ซ้ายมือ) เขาหัวแตก (ขวามือ)

เขาอกทะลุ (ซ้ายมือ) เขาหัวแตก (ขวามือ)

เขาอกทะลุ (ซ้ายมือ) เขาหัวแตก (ขวามือ)

เขาอกทะลุ (ซ้ายมือ) เขาหัวแตก (ขวามือ)

เมื่อคนอื่นๆ ในครอบครัวไม่อยู่บ้าน จึงเหลือเพียงภรรยาทั้ง 2 คน ของนายเมือง โดยทั้ง 2 คน ได้ช่วยเหลือเกื้อหนุนกันด้วยดีตลอดมา จนอยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่นางศิลากำลังทอผ้า ส่วนนางบุปผากำลังตำข้าวอยู่นั้น ทั้งสองเกิดมีปากเสียงและได้ทะเลาะกันจนถึงขั้นวิวาททุบตี ด้วยความโกรธของนางศิลา จึงใช้ไม้ทอผ้าตีบริเวณศีรษะของนางบุปผา จนแตกเลือดไหล ฝ่ายนางบุปผาจับได้สากตำข้าว แทงเข้าตรงหน้าอกของนางศิลาจนอกทะลุ จนทั้ง 2 คนถึงแก่ความตายกลายเป็นหิน นางศิลากลายเป็นเขาอกทะลุ ส่วนนางบุปผากลายเป็นเขาหัวแตก ต่อมานายเมืองเมื่อทราบข่าวดังกล่าวจึงได้ตรอมใจตาย กลายเป็นเขาเมือง (เขาชัยบุรี) ที่มีลักษณะคล้ายช้างมอบ และนางยี่สุ่น ผู้เป็นบุตรสาวของนางศิลา เมื่อทราบว่าพ่อแม่ของตนถึงแก่ความตาย นางก็ได้ตรอมใจตายกลายเป็น เขาชัยสน ส่วนนายซังกั้งลูกชายของนางบุปผา เมื่อทราบว่าทุกคนในครอบครัวได้เสียชีวิตหมดแล้ว จึงเกิดความเสียใจจนตรอมใจตายกลายเป็นเขาซังกั้ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ในบริเวณโรงพยาบาลพัทลุง

แหล่งท่องเที่ยวแนะนำ

แสดงความคิดเห็น:

บทความล่าสุด
5 อันดับที่เที่ยว ยอดนิยม